Aurora Hunting and Renovation

East of Iceland, 10 – 20 March 2017

ค่ายนี้เป็นค่ายอาสาที่ 4 ในต่างประเทศ หลังจากไปผจญที่ ฟิลิปปินส์ อิตาลี และ ญี่ปุ่นมาแล้ว เราตัดสินใจไปค่ายนี้ 1 ปีล่วงหน้าเพราะต้องรอแสงเหนือมาเยือน ไอซ์แลนด์อีกครั้ง สิ่งที่ได้มันคุ้มค่ากับที่รอคอยจริงๆ ส่วนตัวเป็นคนชอบผจญภัยแบบไม่ธรรมดา แบบง่ายๆไม่ไป ก็ได้กลับมาอย่างที่ต้องการ หลักๆคืออากาศที่ไอซ์แลนด์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีวันไหนที่แดดออกทั้งวันหรือหิมะตกทั้งวัน อย่างที่มีคนเคยบอกว่าเราสามารถเจอ 4 ฤดูในวันเดียว เราเจอครบทุกอย่าง ถึงอากาศไม่ดีเราก็ไม่หวั่น กลุ่มเราเดินตากฝน  4 ชั่วโมงเพื่อไปถ้ำ Crystal Cave ออกไปถ่ายรูปขณะที่ลูกเห็บตีเข้าหน้าอย่างเจ็บ หิมะตกหนักถนนลื่นขับรถขึ้นเนินไม่ได้ระหว่างทางกลับไปเมืองหลวง แต่กลุ่มเราบันเทิงได้ตลอดเวลาในทุกสถานะการ อีกอย่างค่ายนี้เป็นคนไทยทั้งหมด เราช่วยเหลือกันตลอด

การเดินทางไปค่ายเริ่มต้นจากเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ เรคยาวิค เดินทางโดยรถบัสเล็กที่ขนาดไม่มีฮีตเตอร์ก็ไม่หนาวคือมันเบียดมากนั่งติดกันอย่างอบอุ่น อากาศตอนนั้นคือ 4 องศา รถออก 9 โมงเช้า เราถึงที่พัก 5 ทุ่ม ยังไม่ใข่ค่ายนะ เป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก แต่ระหว่างทางมีแวะ ปากปล่องภูเขาไฟ น้ำตกแห่งพระเจ้า และบ่อน้ำร้อน สวยงามจนตั้งใจว่าจะต้องกลับมาประเทศนี้อีกครั้ง นี่แค่ความรู้สึกวันแรกของการเดินทาง วันรุ่งขึ้นตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปค่ายใช้เวลา 1 ชั่วโมง ค่ายตั้งอยู่ที่เมือง Eskifjordur อยู่จบค่ายก็ยังอ่านไม่ออกหรอก เมืองเล็กๆมีประชากรไม่เกิน 2,000คน คนประเทศนี้น่ารักมาก ใจดี เชื่อใจคน เค้าถึงจัดให้ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่คนมีความสุขที่สุดในโลก อยู่แล้วมีความสุข

 ภารกิจของค่ายนี้คือซ่อมแซมโรงเรียนเก่าที่ตอนนี้ไม่ใช้แล้วให้มีสภาพเหมือนเดิม ตึกนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 1901มากกว่าร้อยปีแล้ว ทุกบ้านในเมืองนี้เป็นตึกเก่าที่บำรุงรักษาไว้ มันป็นเอกลักษณ์ที่เมืองระแวกนั้นไม่มี บ้านน่ารักๆเยอะมาก เดินถ่ายรูปได้ทุกวันไม่มีเบื่อ ทุกบ้านจะมีป้ายติดว่าสร้างตั้งแต่ปีไหน ส่วนที่กลุ่มเราต้องทำคือลอกสีกำแพงเก่าออกแล้วทาสีใหม่ ก่อนจะเริ่มอุปกรณ์ต้องพร้อม รองเท้า ถุงมือ แว่นตา ที่ปิดปาก ค้อน สิ่ว หมวก วันไหนอากาศดีแดดออกเราก็จะออกไปเก็บขยะรอบๆเมือง สนุกมากเพราะเราจะได้รูปสวยๆกลับมาทุกครั้ง พวกเราทำงาน 5 วันวันละ 4 ชั่วโมง (ปกติอาสาทำงานวันละ 6 ชั่วโมง) ที่น้อยอาจจะเป็นเพราะเรามีภาระกิจอีกอย่างคือ ตามล่าหาแสงเหนือ มันไม่มาหาเราง่ายๆ กว่าจะเห็นก็ปาไปวันที่ 3 แล้ว เว็บพยากรณ์นี่เชื่อไม่ได้เลยเพราะวันที่เราเห็นออโรร่าครั้งแรกเว็บก็บอกว่าไม่มี ส่วนมากเราจะนั่งรอตั้งแต่ 3 ทุ่มถึงตี 2 แต่วันไหนฟ้าปิดเมฆมากไม่ต้องรอหรอกถึงมาก็ไม่เห็น ถ้าตอนเช้าอากาศดีแดดออกตอนเย็นอากาศเปลี่ยนก็ไม่เห็น เห็นออโรร่าไป 2 ครั้งระหว่างอยู่ค่าย และเราไปตามล่าแสงเหนือหลังออกจากค่ายอีกหนึ่งครั้งแบบเห็นจังๆทั้งท้องฟ้าขนาดกล้องถ่ายไม่หมด แต่ละวันที่มาอากาศติดลบตลอด คนไอซ์แลนด์เค้ามีประโยคที่ว่า “there is nothing wrong with the weather, only how well do dress yourself” อากาศจะหนาวเท่าไหร่ถ้าเสื้อผ้าพร้อมก็ลุยได้ตลอด

ค่ายนี้มีจัดทุกปีตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน ใครชอบลุยๆต้องไม่พลาดนะ

แพร์