Japan

 Wazuka project by Tewa

Wazuka

 Wazuka เป็นเมืองเล็กๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเกียวโต อยู่ห่างจาก Kyoto และ Osaka ออกไปประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถไฟเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่มีคุณภาพแหล่งนึงในของเกียวโต การเดินทางไป Wazuka ต้องนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kamo และต่อรถประจำทางไปอีกทีนึง  วันแรกที่มาถึงเป็นช่วงเวลาเย็นเกือบค่ำ Osamu san ซึ่งเป็นเจ้าผู้ดูแลโครงการและอาสาสมัครมารับที่สถานี พร้อมกับแนะนำตัวเองว่าให้เรียกย่อๆ ว่า Sam แต่ผมก็ยังชอบที่จะเรียก Osamu san เต็มๆ เสียมากกว่า (ขอโทษนะครับ Osamu san! ฮ่าๆ) หลังจากนั้นก็พาขับไปที่บ้านพักของ Osamu san และ Chihiro san (ภรรยา) คืนแรก Osamu san จัดงงานเลี้ยงต้อนรับให้ และมีแขกอีกคนพร้อมครอบครัวมาทานข้าวด้วยกันชื่อ พี่แจ็ค (คนไทย) ซึ่งพี่เค้ามาทำงานประจำอยู่กับ Farm ของ Osamu san ที่ Wazuka

ช่วงแรกที่มาอยู่คือช่วงต้นมีนาคม อากาศยังขนาดเย็นอยู่มาก กลางคืนอุณหภูมิติดลบนิดๆ ด้วยความที่เป็นบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณ อากาศในตัวบ้านจึงค่อนข้างเย็น(มาก ๆ) ต้องนอนโดยสวมกางเกง 2 ชั้น เสื้อ 3 ชั้น ผ้าคลุมหัว ถุงมือ ผ้าปิดปาก และนอนคลุมโปง (มีฮีทเตอร์ แต่ไม่กล้าเปิดตอนนอนกลัวไฟไหม้) การที่ต้องลุกออกมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนมันคือความทรมานอย่างแท้จริง ซึ่งห้องน้ำอยู่นอกตัวบ้านออกไปอีก (หลังๆปรับตัวได้ ต้องเตรียมพร้อมเข้าให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน) แต่ข้อดีของช่วงหน้าหนาวคงเป็นเรื่องแมลงต่างๆ ที่ไม่ค่อยมีมารบกวน

การแยกมาอยู่เองคนเดียว สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้คือการหุงหาอาหารด้วยตัวเอง ช่วงแรกยังฉลาดไม่พอ ต้องตื่นมาหุงแต่เช้า หลังจากตั้งเวลาเป็นชีวิตก็ดีขึ้นเยอะ วันนึงๆ ก็สนุกกับการไปจ่ายตลาดหลังเลิกงาน Supermarket และร้ายขายเนื้อแบบ Local ของเมืองต่างจังหวัดในญี่ปุ่น และมีโอกาสได้ลองใช้ซอสและวัตถุดิบต่างๆ ที่ไม่เคยซื้อตอนอยู่ไทย เมนูเด็ดที่ทำกินบ่อยๆ คือหมูต้มซี่อิ้ว ทำทีก็กิน 3 มื้อ เพราะเวลาน้อยในช่วงเช้าและกลางวัน อุปสรรคหลักของการทำอาหารคืออากาศที่เย็น เนื่องจากไม่มีน้ำร้อน เวลาล้างจานแต่ละครั้งก็ต้องต้มน้ำร้อนมาล้างเพื่อไม่ให้จานเป็นไข

 Sento time! ถึงตัวบ้านจะมีห้องน้ำ แต่ก็มีแต่โถส้วม ไม่มีห้องอาบน้ำ อาสาสมัครมีสองทางเลือก คือไปอาบน้ำที่บ้าน Osamu san หรือที่ Sento (โรงอาบน้ำสาธารณะ) ด้วยความเกรงใจ Osamu san ประกอบกับขี้เกียจปั่นจักรยานฝ่าอากาศอันหนาวเหน็บไป เลยตัดสินใจอาบที่ Sento ดีกว่า แถมยังสบายๆ ได้แช่น้ำร้อนในอ่างใหญ่ๆ ทุกวัน แรกๆ ก็อาย ตอนหลังชินชาไปซะงั้น ในเดือนๆ นึง Sento เองก็จะมีวันที่ปิดทำความสะอาดเหมือนกัน วันที่ปิดก็จะต้องขนเสื้อผ้าไปอาบที่บ้าน Osamu san แทน

การเดินทางใน Wazuka, Osamu san มีรถมอเตอร์ไซด์กับจักรยานให้ใช้ ด้วยความที่ผมไม่ได้ทำใบขับขี่สากลไปด้วย เลยเลือกจักรยานและชอบเดินทางแบบ Slow life มากกว่า (ปั่นจักรยานไปทำงาน ฝันมานานแล้ว!)  แต่ชีวิตจริงก็ต่างจากความมฝันนิดๆ เพราะทุกเช้าต้องปั่นผ่าลมและความหนาวไป ถึงจากบ้านพักไปที่บ้าน Osamu san จะไม่ไกล แต่ปั่นจักรยานตอนเช้าหนาวๆ มันก็ทรมานเอาเรื่อง ขาไปด้วยความที่บ้านพักอยู่บนเนินเขาย่อมๆ เลยทำเวลาได้ดี แต่ขากลับต้องปั่นขึ้นเนินกลับก็เล่นเอาแทบแย่ในช่วงแรก

การทำงานอาสาสมัคร แน่นอนก็ต้องไร่ชาเขียว ช่วงเดือนแรกๆ ก็ช่วยงานอยู่ไร่ของ Osamu san โดยประกบคู่กับพี่แจ็คซึ่งเป็นพนักงานหลักของ Osamu san, หลังจากหน้าหนาว งานหลักๆ คือเก็บกวาดพวกเศษใบไม้ใบหญ้า ตัดแต่งต้นชา เตรียมดิน พรวนดิน ใส่ปุ่ยให้กับต้นชา เพื่อกระตุ้นให้เริ่มออกใบใหม่ในช่วงต้นฤดูร้อนในเดือนพฤษภาคม การทำงานของอาสาสมัครปกติจะทำวันจันทร์-ศุกร์ และมีช่วง free time เพื่อพักผ่อนหรือออกไปท่องเที่ยวตามเมืองใกล้ๆ ได้ แต่ผมเลือกที่จะทำ 6 วันหยุดหนึ่งวันหรือทำยาวๆ เพื่อเก็บวันหยุดไว้ใช้ทีเดียวหนึ่งอาทิตย์เพื่อที่จะได้เดินทางไปไกลๆ หลายวันหน่อย แต่เพราะหักโหมทำงานติดกันจนไม่ได้พักผ่อนไปนิด ร่างกายเลยเกิดบาดเจ็บที่หลังขึ้นกระทันหัน ต้องหยุดประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็ทรงๆ ตัว ช่วงบาดเจ็บโชคดีที่ได้ Miwa san โฮสต์ของโครงการอีกคนมาช่วยดูแล ทำให้ช่วงครึ่งหลังของการทำงานอาสามสมัคร จะไปช่วยงานที่ไร่ของ Miwa san และครอบครัวแทน ซึ่งงานในช่วงหลังก็จะงานเบาๆ ลง เพื่อไม่ให้อาการเจ็บที่หลังกำเริบขึ้น เช่น เก็บใบไม้อื่น ๆ ระดับเดียวกับยอดชาออก (เพื่อไม่ให้เวลาตัดใบชา มีใบของต้นไม้ชนิดอื่นปนไป) หรือการคลุมตาข่ายดำเพื่อทำมัจฉะ เป็นต้น นอกจากงานในไร่ชาแล้ว ก็มี Event พิเศษอื่นๆ ด้วย เช่นการทำงานกับอาสาสมัครกับนักเรียนญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยต่างๆ และอาสาสมัครจากหน่วยงาน NICE  ที่มาจากโครงการอื่น ๆ และได้เข้าร่วมพิธีเก็บชาประจำปีครั้งแรกด้วยมือของเมือง Wazuka ซึ่งใบชาแรกของปี จะเป็นใบชาที่มีคุณภาพสูงและดีที่สุด แต่ราคาเองก็สูงตามไปด้วย

 3 เดือนใน Wazuka ผ่านไปเร็วมาก ประสบการณ์ที่ได้รับ ตลอดทั้งความทรงจำดีๆ รวมถึงเพื่อนใหม่ๆ และอีกมากมาย ขอขอบคุณ Osaumu san Miwa san และพี่แจ็ค รวมถึงครอบครัวของทั้ง 3 คน ที่ช่วยดูแลตลอดเวลา 3 เดือน ต้องหาเวลากลับไปเที่ยว Wazuka อีกครั้งแน่นอน

เทวา เชิดสูงเนิน