Peace Village Heart
หัวใจของ Peace Village
เขียนเรื่อง การแลกเปลี่ยนอาสาสมัคร เรื่องจิตอาสา เรื่องประโยชน์ของความความเข้าใจแตกต่างทางวัฒนธรรมมาหลายบันทึก บันทึกนี้อยากจะให้เขียนถึงหัวใจของ Peace Village อีกข้อหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นจุดตั้งต้นของสถานที่นี้ นั่นก็คือ เกษตรกรรม หรือ Agriculture
เริ่มต้นความตั้งใจนั้น เราอยากจะมีที่ดินสักผืนหนึ่ง พูดว่ามีที่ดินผืนหนึ่งนั้นดูจะเป็นเรื่องง่าย และใกล้ตัว สำหรับชาวชนบท แต่สำหรับคนที่ไม่มีแม้แต่บ้านของตนเองนั้น การมีที่ดินผืนเล็ก ๆ เพียงผืนหนึ่ง ดูจะเป็นเรื่องไกลตัว และยากเย็นนัก ในยุคสมัยที่ต้องใช้เงินซื้อหา ไม่ใช่จับจองดังเช่น 70 – 80 ปีที่ผ่านมา
เพราะแนวคิดที่ว่า ที่ดินคือ ต้นทุน คือทรัพยากร คืออาหาร คือที่อยู่อาศัย คือญาติมิตร เรียกได้ว่าคือส่วนหนึ่งของชีวิต การมีที่ดินผืนหนึ่ง จึงเปรียบเสมือนการตั้งต้นชีวิต ที่เริ่มต้นจากธรรมชาติ (จริง ๆ แล้วมนุษย์ก็คือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราพยายามเตือนตัวเองเช่นนั้น หลังจากที่สังคมกระแสหลัก พยายามเอาชนะและควบคุมธรรมชาติ) เมื่อมีที่ดิน เราจึงจะมีที่อยู่อาศัย มีอาหาร โดยการเพาะปลูก และหากมีการบริหารจัดการที่ดี ที่ดินจึงจะหลายเป็นเครื่อนุ่งห่ม ยารักษาโรค ญาติมิตร และสังคมไปในที่สุด
Peace Village ครานี้ เรามีมุมเล็ก ๆ มุมหนึ่งที่ตั้งต้นตั้งใจให้เป็นฟาร์ม โดยมีตัวอย่างความฝันแบบงานเกษตรประจำปีของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็น Model ขับเคลื่อนความฝัน เราตั้งใจว่าสวนเกษตร ซึ่งก็คือสวนแบบไทย (ทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนไทยได้ในรายการหนังพาไป นาทีที่ 04:10 http://www.youtube.com/watch?v=e_ob5cXu6ZQ) จะเป็นอู่ข้าว อู่น้ำ จะเป็นรายได้ และจะเป็นที่สร้างมิตรภาพ ให้มิตรสหายมาเยี่ยมเยียน แบ่งปัน แลกเปลี่ยนความรู้ และนำกลับไปบริโภคบ้านของตนเอง
3 เดือนแรกของ Peace Village แปลงเกษตรเล็ก ๆ เริ่มต้นด้วย การลองผิดลองถูกกับสถานที่ใหม่ เราเริ่มจากการเรียนรู้สถานที่ว่าที่ใดเหมาะสมแก่การเพาะปลูก น้ำไม่ท่วมในฤดูน้ำหลาก ดินดีพอควร เหมาะสมกับการดูแล และประโยชน์ใช้สอยด้านต่าง ๆ ศาสตร์เรื่องการบริหารจัดการเริ่มต้นขึ้นที่
การจัดสรรพื้นที่สำหรับ
พืชล้มลุก
พืชเถาไม้เลื้อย
สมุนไพร
ไม้ยืนต้น ประเภทให้ผล ให้ร่มเงา
สถานที่สำหรับการทำแก็สชีวภาพ ซึ่งแน่นอนว่าต้องอยู่ใกล้โรงครัว และน้ำไม่ท่วมถึง
สถานที่สำหรับทำน้ำส้มควันไม้
สถานที่สำหรับการปลูกข้าวในล้อยาง
การแปรรูปผลลิตทางการเกษตร ให้เป็นอาหาร และเครื่องใช้ เช่น สบู่ แชมพู น้ำยางล้าจาน เป็นต้น
3 เดือนต่อมา แปลงข้าวโพด ผักหวาน มะเขือ แตงกวา ผักไซ้ซิม ถั่วฝักยาว ฟักข้าว พริก ล้อยางสำหรับปลูกข้าว ท่อซีเมนต์หมักปุ๋ย องค์ความรู้เรื่องการเผาแกลบทำปุ๋ย องค์ความรู้เรื่องการเพาะเห็ด เกิดขึ้น ด้วยความเอื้อเฟื้อองค์ความรู้ ต้นกล้า และอุปกรณ์ จาก ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ตั้งอยู่ห่าง Peace Village ประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นี่เราสามารถเข้า – ออก เหมือนเป็นบ้าน ไปช่วยเหลือ ไปซื้อผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไปขอพันธุ์พืช ซึ่งหากพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว นี่คือพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านที่ไปจะไปสร้างที่ประทับที่ใด ต้องสร้างฟาร์ม สร้างคลังอาหารก่อน เพราะอาหารคือชีวิต โดยที่ที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องรองลงมา
เรียนรู้องค์ความรู้เกษตรกรรมกับปราชญ์ชาวบ้าน บ้านพี่คำนึง
เตรียมดิน
เตรียมล้อยาง
นอกจากนี้องค์ความรู้อื่น ๆ ยังได้รับความเอื้อเฟื้อจากพี่คำนึงและเครือข่าย ปราชญ์ชาวบ้านที่เรียนรู้ถูกผิดจากการลงมือทำ จนกลายเป็นบ้านของพี่คำนึงกลายเป็นสถานที่ที่เรียนรู้เชิงเกษตรกรรมสำหรับทุกคน
หัวใจของ Peace Village ยามนี้กำลังดำเนินไปด้วยดี ด้วยความเข้าใจ และความตั้งใจของเราทุกคน และเชื่อมั่นว่าอาสาสมัครนานาชาติที่จะมาเรียนรู้ทั้งความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภาษาที่นี่ จะเรียนรู้การเกษตร เรียนรู้หัวใจของการอยู่กับธรรมชาติ นำกลับไปปรับใช้ที่ประเทศของตนเองเช่นกัน
Gate/VSA