Great Britain:
YMCA FAIRTHORNE MANOR EP.5


งานอาสาที่เราทำที่นี่ก็คือตำแหน่ง Activity Instructor ถ้าอธิบายง่ายๆก็คือเราจะพักอยู่ในค่ายฤดูร้อนที่จะมีกลุ่มเด็กๆหรือบางกลุ่มมากันเป็นครอบครัวมาทำกิจกรรมที่นี่ ถ้าเป็นที่ไทยก็จะเป็นคล้ายๆค่ายลูกเสือ แต่กิจกรรมของที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากที่ไทยมาก เช่น ยิงธนู พายเรือคายัก แคนนู ปีนผา ก่อไฟ สร้างที่พักในป่า ซึ่งหน้าที่ของเราก็คือเป็นสอนเด็กที่มาทำกิจกรรมพวกนี้ พาเล่นเกมส์ โดยเราจะเป็นคนนำกิจกรรมเองเลย ทำให้ก่อนทำงานจริงอาสาสมัครทุกคนต้องเข้ารักการฝึกอย่างจริงจัง ไอ้เราตอนอยู่ไทยวันๆก็นั่งอ่านตำราเรียน อ่านวิจัยอย่างเดียว ไม่เคยออกกำลังกาย ตอนฝึกแรกๆนี่ง้างคันธนูแทบไม่ออก หนึ่งในการฝึกที่พีคๆก็คงเป็นการฝึกต่อแพ!

ตามติดชีวิตจิตอาสาในต่างแดน

CONCUKLTV01-17 YMCA FAIRTHORNE MANOR (GBR) 10/03/2017-03/11/2017 Part 5

ช่วงที่เราไปถึงแรกๆคือเดือนมีนาคม อากาศหนาวแทรกซึมทุกรูขุมขนยิ่งวันนั่นฝนฟ้าช่างไม่เป็นใจ ฝนตกลมแรงมาก มือชาแทบไม่มีความรู้สึก ครูฝึกเราเป็นคนอังกฤษแท้ๆนางก็ช่างทนทานต่อสภาพอากาศซะเหลือเกิน ใส่ขาสั้นเดินไปเดินมาอย่างชิวๆ แล้วก็สอนวิธีต่อแพ พร้อมกฏต่างๆเพื่อความปลอดภัย เราก็พยายามตั้งใจฟังนะแต่คือตอนนั้นทั้งเปียกทั้งหน้าชาไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ขนาดมัดเชือกยังไม่มีแรง ไม่เพียงแค่นั้นหายนะก็มาเยือนเมื่อครูฝึกบอกให้ทุกคนเอาแพลงน้ำ ไอ้ลำพังนั่งบนแพมันไม่เท่าไหร่หรอก แต่นางบอกให้ยืน! เราก็แบบ แกร๊จะบ้าหราาาา ไอ้แพที่ต่อนี่มันเสถียรซะที่ไหนล่ะยะขืนตกน้ำก็แข็งตายพอดีสิ ไม่พอค่ะ แค่ยืนไม่สาแกใจนาง คราวนี้นางบอกให้ลองกระโดด แค่ยืนก็โครงแครงซะขนาดนี้ และแล้วสิ่งที่คาดคิดก็เกิดขึ้นเนื่องจากท่อนซุงที่ใช้ต่อแพมันลื่นมากเราเลยเซไปโดนเพื่อนข้างๆเลยหัวทิ่มตกน้ำไปพร้อมกัน 555 จริงๆเราว่ายน้ำเป็นนะแต่คือน้ำมันเย็นยะเยือกขยับแขนขาไม่ออกเลย อุณภูมิน้ำวันนั้นเฉียดๆจะ 0องศา อยู่แล้วเพื่อเราก็ตกใจรีบช่วยกันลากขึ้นมาจากน้ำ ปรากฏว่าหลังจากวันนั้นไข้ขึ้นเลยจ้า นอนสลบไปสองวัน

อีกหนึ่งการฝึกที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดก็คือ stream exploration แปลเป็นภาษาบ้านๆก็คือการเดินสำรวจแม่น้ำนั่นเอง แล้วทำไมมันถึงโหด?แค่เดินสำรวจแม่น้ำ ลองจินตนาการแม่น้ำหนาวเย็นยะเยือก อณุหภูมิเฉลี่ยก็ประมาณ 5-10 c แล้วต้องเดินอยู่ในนั้นเป็นชั่วโมง บางช่วงตื้นบางช่วงลึก ระหว่างทางก็เต็มไปด้วย หิน ซากต้นไม้ โคลน เป็นหย่อมๆ พอเรากับเพื่อนสาวชาวเอเชียรู้ว่าจะต้องลงน้ำ คราวนี้ขอบอกว่าคอสตูมจัดไปแน่นมาก รวมๆน่าจะ7ชั้นโดนประมาณ คลุมด้วยเสื้อกันฝนสีชมพูตัวใหญ่ มองไกลๆตัวจะพองๆคล้ายหมีสีชมพูอะไรประมาณนั้น ส่วนรองเท้าเราก็เอาถุงพลาสติกหุ้มเท้าแบบสมัยลุยน้ำท่วมบ้านเรา คลุมด้วยถุงเท้า แล้วใส่บูทยางแบบสูงๆ ในใจก็คิดว่าแม่น้ำมันคงไม่สูงเท้าบูทยางหรอกม๊างงง เมื่อคอสตูมพร้อม คนพร้อม ภารกิจของเราก็เริ่มขึ้น ช่วงแรกก็เหมือนจะปกติดี ถึงแม้จะเซๆตกโคลนไปบ้าง555 แต่แล้วเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้นเมื่อเราเดินมาถึงช่วงน้ำลึกทำให้มองไม่เห็นพื้นข้างล่าง ปรากฏว่าใต้น้ำตรงนั้นเป็นโคลนดูด!!! ขุ่นพระ อาสาทุกคนพากันตกบ่อโคลนกันโดนท่วนหน้า ทุกคนต้องชุดกันขึ้นมาที่ตลิ่งอย่างทุกลักทุเล บรรดาสาวๆผู้ใส่บูทยางจมกันโคลนกันแบบมิดหน้าแข้งกันเลยที่เดียว แต่ปัญหาคือโคลนตรงนั้นมันผสมด้วยหินกรวดเวลาที่บูทจมลงไปมันก็จะพรั่งพรูกันเข้าไปติดอยู่ในบูทกันแบบหาทางออกไม่เจอคราวนี้ก็ติดเหง็กกันล่ะสิ จะเอาเท้าออกมาก็ออกไม่ได้เพราะเท้าจะเสียดสีกับหินจนเลือดออก ทางเดียวคือดึงออกมาทั้งรองเท้า หัวหน้าเราเป็นหนุ่มชาวนิวซีแลนด์กล้ามใหญ่ลงมาช่วยดึงเราออกจากโคลน แต่เชื่อมั๊ยไม่ขนาดหัวหน้าเรายกเราแบบตัวลอยไอ้รองเท้าเจ้ากรรมก็ไม่มีทีท่าจะขยับเลยแม้แต่นิดเดียว คราวนี้แม่สาวเจ้าถิ่นชาวอังกฤษมาช่วยดึงอีกคน ดึงไปดึงมาเกือบ5นาทีในที่สุดเราก็หลุดจากโคลน โดนทั้งเราทั้งคนดึงร่วงลงน้ำพร้อมกันทั้งแก๊งเลย5555 ไอ้เสื้อผ้าที่อุส่าห่อมากันน้ำก็ไม่เหลือเลยจ่ะ เปียกทุกตารางนิ้ว ณ ตอนนั้นหนาวสั่นปากเขียวไปหมดละ พอกลับห้องได้เรายืนแช่น้ำร้อนกันเกือบชั่วโมง ณ จุดนี้ต้องกราบขอขอบคุณหัวหน้าผู้เสียสละมาจมน้ำกับเราจากใจ555 

พักเรื่องการฝึกกันสักพักเรามาดูทริปแรกนอกเมืองกันดีกว่า คราวที่แล้วเราได้ไปเดินเตร็ดเตร่ในsouthampton กันแล้ว คราวนี้เราจะนั้งรถไฟไป brighton กัน เคล็ดลับการซื้อตั๋วรถไฟให้ถูกคือหนึ่ง ต้องจองล่วงหน้า สอง จองแบบกลุ่มสาวคนขึ้นไปจะได้ลดประมาณ 30 เปอร์เซ็น คราวนี้ไกด์นำเที่ยวของเราคือพ่อหนุ่มอาสาสมัครชาวเกาหลี คิม เจ ซุง เรานั่งรถไฟจากที่พักมาประมาณสองชั่วโมงครึ่งก็มาถึง brighton จุดเด่นของที่นี่ก็คือเป็นเมืองชายทะเล อากาศหนาวกว่า southampton มาก มีปราสาทสวยมาก ใครมาเมืองนี้ต้องไปถ่ายรูปกับปราสาท แต่เราได้แต่ถ่ายรูปข้างนอกนะ เนื่องจากค่าเข้าแพง ชิรวมถึงถนนคนเดินที่น่ารักอีกเช่นกัน บรรยากาศคล้ายตรอกไดแอกอนในแฮรี่พอตเตอร์ 

นอกจากการฝึกกิจกรรมตามฐานปกติแล้วกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ทางcampของเราจัดเป็นประจำช่วงสุดสัปดาห์ก็คือพวกpartyต่างๆโดยส่วนใหญ่คนที่มาจะมีเด็กประมาณ12คนต่อกรุ๊ปพร้อมผู้ปกครอง เช่น servivor party Happy birthday party และอีกสารพัด party ที่คุณจะจินตนาการได้ ซึ่งpartyก็ต้องฝึกนะจ๊ะ

     Partyที่เราขอนำเสนอในวันนี้ก็คือ servivor party สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องสร้างที่พักจากกิ่งไม้ใบไม้ โดนจะมีขอนไม้ที่ตัดไว้กระจายอยู่บริเวณนั้นแล้ว ที่สำคัญคือเต้นที่สร้างต้องกันน้ำ เพราะพอสร้างเสร็จทุกคนต้องเข้าไปในเต้นแล้วครูฝึกเอาน้ำสาดจ้า ถ้าสร้างไม่ดีก็เปียกกันไป ซึ่งไม่มีใครอยากเปียกแน่นอนเพราะอากาศก็หนาวอยู่แล้ว555

     หลังจากสร้างเต้นเสร็จตอนท้ายของ Party ก็จะมีการทำอาหารกินกัน ซึ่งพอถึงเวลาจริงเราจะต้องเป็นฝ่ายทำอาหารให้เด็กๆ ฉะนั้นเลยต้องฝึกก่อไฟกับทำอาหารด้วย อาหารที่ต้องทำก็จะมีพิซซ่าที่ทำจากแผ่นแป้งบางใส่ในกระทะทาซอสมะเขือเทศ โรยชีส แอปเปิ้ลกับกล้วยนำมาเจาะใส่ช๊อกโกแลตห่อฟรอยปิ้ง มาสเมลโล่ปิ้ง ขนมปัง เป็นต้น ซึ่งเราก็ฝึกทำจริง กินจริง กันอย่างสนุกสนาน555 เพื่อนเรามีการเอามาสเมลโล่กับช๊อกโกแลตมาใส่ในพิซซ่าก็อร่อยไปอีกแบบ ของโปรดเราคือแอปเปิ้ลเผากับเนยและช๊อกโกแลตหอมมันอร่อยสุดๆ ส่วนสิ่งที่ยากและรสชาติแย่ที่สุดเห็นจะเป็นขนมปังเพราะเราทำกันเองตั้งแต่ผสมแป้งเลยบางที่ก็ผสมน้ำเยอะไปบ้างแป้งหนาไปบ้าง พอผสมเสร็จก็ต้องไปพันไม้ปิ้ง บางทีก็ปิ้งไม่สุกบ้าง ไหม้บ้าง555 เอาเป็นว่าถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง

วันนี้จะขอพาทุกคนมาเที่ยวเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของอังกฤษ oxford นั่นเอง! ที่ตัดสินใจมากันที่นี่เพราะมีอาสาสมัครร่วมค่ายแอบกระซิบมาว่า มีห้องอาหารของภายในโบสถ์ที่นี่เป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายทำฉากใน Harry potter! แต่ต้องระวังนิดนิงนะจ๊ะอย่าเดินทะเล่อทะล่าเข้าไปมั่วๆหละ เพราะมันมีค่าเข้า8 ปอนด์ แต่ช้าก่อนอาสาสมัครจนๆอย่างเรามีรึจะยอมเสียค่าเข้า 8 ปอนด์ สิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือเราสามารถเข้าชมห้องอาหารภายใน collage ของมหาวิทยาลัยที่คล้ายกันแต่เล็กกว่าในราคา 2 ปอนด์เท่านั้น!

   การเดินทางมาเมืองนี้เราจะพาเดินทางกันอ้อมโลกซักหน่อยเนื่องจากตั๋วถูก 555 โดยเราจะนั่งรถไฟเข้าเมือง แล้วsouthampton ก่อนแล้วต่อรถบัสเข้า oxford มีเคล็ดลับนิดนึงในการเดินทางให้ประหยัดในอังกฤษ จำชื่อนี้ไว้ให้ขึ้นใจ megabus megabus megabusssssssss เราซื้อตั๋วจากsouthhamptonไปoxfordด้วยราคา 3 ปอนด์ ที่พีคกว่านี้คือเราเคยซื้อตั๋วจากlondon ไปสก๊อตแลนด์ด้วยราคา 3 ปอนด์เช่นกัน!

   เมือง oxford เป็นเมืองที่สวยมากเมืองนึงแนะนำให้มาค่ะ เดินไปจะเจอตึกสวยๆตลอดทาง นักศึกษาหล่อๆเดินกันขวักไขว่ หุหุ แต่สิ่งที่ทำให้หงุดหนิดเป็นที่สุดคืออะไรๆก็เสียค่าเข้าไปหมดแม้กระทั่งสวนสาธารณะ การเดินทางในเมืองก็แสนง่ายคุณมาสามารถเดินเท้าได้ทั่วเมือง โดยแนะนำให้ตรงไปที่shopping street ก่อนเพระที่นั่นจะมีศูนย์ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวพร้อมแผนที่ด้วย และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือควรจะมาในช่วงเปิดภาคเรียนเพราะคุณสามารถชมหลายๆcollageได้ฟรี

วันนี้จะขอเล่าแบบยาวๆกับตารางการฝึกที่แสนจะโหด มันส์ ฮา ของเรา โดยปกติจะแบ่งเป็นสองช่วงคือ เช้าและบ่าย โดยเราจะต้องลองทำกิจกรรมทุกอันที่เด็กๆจะต้องทำ รวมถึงอบรมด้านการปฐมพยาบาลอีกด้วย ซึ่งช่วงการฝึกของเราเป็นช่วงที่เครื่องซักผ้าเสียบ่อยที่สุด555 เหตุผลก็เพราะกิจกรรมที่เราทำเกือบทุกอันเป็นกิจกรรม outdoor บางทีก็ต้องลงน้ำบวกกับประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่ฝนตกได้พร่ำเพรื่อมาก บางทีตกแค่สิบนาทีอีกห้านาทีแดดออกคาดเดาไม่ได้ ฉะนั้นเสื้อผ้าและรองเท้าของทุกคนจะเต็มไปด้วยโคลนแฉะๆ และเกิดศึกแย่งชิงเครื่องซักผ้าเกิดขึ้นจนบางทีเราต้องตื่นมาซักตอนตี5ไม่งั้นก็ไม่มีชุดใส่!

   จริงที่นี่มีกิจกรรมเยอะมากๆเช่นปีนผา zipwire เรือโจรสลัดแต่เราถ่ายรูปมาไม่หมด วันนี้ขอเริ่มที่กิจกรรมทางน้ำก่อนแล้วกัน

สำหรับอาสาสมัครทุกคนกิจกรรมทางน้ำเนี่ยเป็นสิ่งที่หลายๆคนส่ายหัวกันเป็นแถว เหตุผลก็เพราะต่อให้เป็นช่วงไหนของปีน้ำในทะเลสาบก็ยังจะลักษามาตรฐานได้ดีเยี่ยมจริงๆ นั่นคือหนาวไม่เปลี่ยนแปลงนั่นเอง! และสิ่งที่เราต้องฝึกควบคู่กับการพายเรือก็คือการฝึกช่วยชีวิต ฝึกพายเรือเนี่ยก็สนุกดีหรอกแต่มันจะไม่สนุกตอนฝึกช่วยชีวิตนี่แหละค่ะ ทำไมหนะหรอเราต้องจับคู่กับเพื่อแล้วพลัดกันโดดลงน้ำให้เพื่อนช่วย ถ้าเพื่อนช่วยไม่ได้เราก็แช่น้ำอยู่อย่างนั้นแหละไม่ใช่สิต้องเรียกว่าแช่น้ำแข็งซะมากกว่า บางทีเพื่อนก็พยายามจะช่วยเราจนตกน้ำด้วยกันก็มี555 ยิ่งถ้าขนาดตัวต่างกันมากๆนี่.....ไม่ต้องจินตนาการกันเลยทั้ง ฉุด กระชาก ลาก ดึง กันเหนื่อย นอกจากนี้เราต้องเอาเรือที่คว่ำมาพลิกเอาน้ำออกแล้วให้เพื่อนปีนเข้าไปอีกรอบเพราะเราจะไม่พาเข้าฝั่งถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆ ไอ้ลำพังเรือคายัคมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่แคนนูล่ะ!พวกเราทุกคนหันมองหน้าครูฝึกประมาณยูจะบ้าหราาา แคนนูหนักมากนะเฟร้ยย แบกอยู่บนฝั่งธรรมดาก็ใช้คนอย่างต่ำสี่คนละ นี่ในน้ำนะยะ คิดว่าชั้นแข็งแรงกล้ามใหญ่เหมือนยูรึไง! แน่นอนล่ะผู้หญิงบางส่วนก็ทำไม่ได้หรอกต้องอย่างต่ำสองคน บางคนนี่พยายามพลิกเรืออีกลำจนเรือตัวเองจมก็มี555แต่เป็นช่วงเวลาที่เฮฮาที่สุดในการฝึกเลยก็ว่าได้เพราะเราจะได้ยินเสียงคนที่ต้องลงน้ำกรี๊ดตลอดเวลา เพื่อนคนอื่นก็ช่วยกันเชียร์อย่างเมามันส์555 จริงๆตอนแรกเราก็งงนะว่าใครจะไปทำแคนนูคว่ำฟระ ทั้งหนักทั้งใหญ่แต่เอาเข้าจริงแล้วเด็กอังกฤษบ่กลัวน้ำจ้าาาา เหล่าเด็กๆที่น่ารักของเราแกล้งทำเรือจมกันสนุกสนาน ไอ้คนที่ไม่สนุกด้วยก็staffนี่แหละ เพราะเด็กกว่า80เปอร์เซ็นลงแล้วขึ้นกลับเรือตัวเองไม่ได้ซะงั้น วุ่นวายกันไปหมด5555

ความลำบากอย่าหนึ่งของการอยู่เมืองหนาวก็คือการอาบน้ำนั่นเอง เป็นที่รู้กันอยู่ว่าฝรั่งเค้าจะไม่ค่อยอาบน้ำกันแต่สำหรับชาวเอเชียอย่างเราๆอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ ที่ที่พักของเราจะมีปัญหาหม้อน้ำอุ่นเสียบ้างประปราย เวลาเสียทีเราก็จะไม่มีน้ำอุ่นใช้กันทั้งค่ายเรื่องนี้เกิดขึ้น ณ วันที่อากาศหนาวราวๆ 5 องศา อยู่ดีๆเพื่อนสาวชาวเวียดนามก็วิ่งออกมาจากห้องน้ำพร้อมสบู่เต็มหัวพร้อมโวยวายว่าน้ำเย็นเป็นบ้าเลย ไอ้เรากับสาวๆที่อยู่บ้านด้วยกันมองตากันปริๆอย่างรู้ชะตากรรม ได้แต่ภาวนาว่าเค้าจะซ่อมหม้อน้ำอุ่นเสร็จในเร็ววัน


เหตุการณ์ผ่านไป 3 วันเต็มๆแบบไม่มีน้ำอาบ เหล่าสาวๆรวมถึงเราเริ่มกระวนกระวายกับเนื้อตัวและหัวที่แสนจะสกปรก และแล้วการออกล่าน้ำอุ่นก็เกิดขึ้น! เราเดินหาห้องอาบน้ำน้ำทั่วcampแต่ปรากฏว่าทุกห้องต่อมาจากท่อเดียวกันหมด เราเกือบถอดใจกับชะตากรรม แต่เดชะบุญระหว่างที่เราเดินกลับบ้านพักเพื่อนอาสาหนุ่มอังกฤษสองคนกำลังวุ่นกับการทาสีอุปกรณ์สำหรับงานปาร์ตี้อยู่หน้าหอพักชาย เราเลยได้ไปช่วยนั่งทาสีกับเค้าด้วยพอทาเสร็จตัวเราก็เลอะเทอะไปด้วยสี เพื่อนเลยบอกให้เราไปล้างในหอชายก็ได้ ไม่ได้ล๊อก โมเมนต์ที่เราผลักประตูห้องน้ำเข้าไปนั้นเองงงง และแล้วเราก็เจอกับสิ่งที่ตามหามาแสนนาน เครื่องทำน้ำอุ่นนั่นเอง!!!!!!กรี๊ดดดดด ขุ่นพระ ไม่น่าไอ้พวกผู้ชายไม่เคยบ่นเรื่องน้ำเลย ว่าแล้วแผนชั่วเกิดขึ้นในหัวอย่างรวดเร็ว เค้าก็ไม่มีกฎห้ามผู้หญิงเข้าหอชายนี่หว่า ว่าแล้วก็จัดเตรียมเครื่องอาบน้ำแอบมาอาบตอนบ่ายสองที่คาดว่าไม่มีคนอยู่ ระหว่างที่กำลังอาบน้ำในรอบสี่วันอย่างสบายใจก็ได้ยินเสียเคาะประตูอย่างรุนแรงพร้อมกับน้ำอุ่นที่ปิดลง อ่าวงานเข้าละ อะไรฟระ ปรากฏว่าเพื่อนหนุ่มชาวอังกฤษของเราเพิ่งเสร็จจากงาน แถมผลัดตกลงในทะเลสาบน้ำเย็นกำลังเคาะประตูอย่างบ้าคลั่งเพราะต้องการเปลี่ยนชุดก่อนงานถัดไปจะเริ่มในอีก 15 นาที !ชิบหายละ เราแง้มประตูออกตัวก็พันผ้าขนหนูอยู่ อีตาบ้านี่ไม่สนใจลากเราออกจากห้องน้ำด้วยความตกใจแล้วบอกขอใช้ก่อนห้านาที ทิ้งให้เรานุ่งผ้าขนหนูยื่นอยูกลางหอชาย กรรมของเวร เวรของกรรมแท้ๆ ไม่นานเพื่อนอีกสองสามคนก็เปิดประตูมาดูตามเสียงโวยวาย สรุปก็โดนจับได้ตามระเบียบ แต่อย่างที่บอกว่าไม่มีกฎห้ามผู้หญิงเข้าหอชาย สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ ผู้หญิงทุกคนหอบผ้ามาอาบน้ำที่หอชายหมด งานนี้พูดอะไรไม่ออกนอกจาก I am sorry najaaa ก็น้ำมันเย็นอ่ะ!

By อิงฟ้า