Iceland

อีกครั้งหนึ่งกับงานอาสา

สวัสดีค่ะ ชื่อเฟิร์นนะคะ แต่เพื่อนในค่ายมักจะเรียกว่า บีเค ค่ะ ค่ายนี้คือค่ายที่ 2 ของเรากับ VSA ซึ่งก็คือค่าย AURORA HUNTING AND RENOVATION IN THE EAST OF ICELAND ภารกิจคือพวกเราต้องไปปรับปรุงโรงเรียนค่ะ จุดเริ่มต้นของการไปค่าย คืออยากเห็นแสงเหนือ และก็ได้เห็นจริง ๆ ค่ะ ได้เห็นประมาณ 4 วัน นอกนั้นก็มีฝนบ้าง หิมะบ้าง แต่นั่นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ

เมื่อพูดถึงความรู้สึกกับค่ายไอซ์แลนด์ คงบรรยายยังไงก็ไม่หมดค่ะ เพราะความรู้สึกกับสิ่งที่ได้รับมันดีมาก ๆ แบบว่ายังไงก็จะต้องกลับไปแน่นอน เราใช้เวลาเดินทางจากเมืองหลวงไปถึงค่ายประมาณ 12 ชั่วโมง แต่ระหว่างทางก็ได้แวะเที่ยวตามจุดต่าง ๆ

เริ่มตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงค่าย เราได้รับการต้อนรับที่ดีมาก ๆ ถึงแม้ว่าเวลา ณ ตอนนั้นจะเที่ยงคืน แต่อาสาสมัครคนอื่น ๆ และ Camp leader ก็รอต้อนรับกันอย่างดี มีทั้งอาหารและขนมหวาน อาสาสมัครมีทั้งหมด 6 คน มาจาก เอสโตเนีย เยอรมัน ฝรั่งเศส ไต้หวัน ญี่ปุ่น ไทย และ Camp leader อีก 4 คน มาจากสโลวาเกีย บราซิลและฟินแลนด์ Camp leader พาชมบ้านที่เราจะพักอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ค่าย ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่ามีอายุประมาณ 100 ปี และอธิบายถึงงานที่พวกเราต้องทำก็คือปรับปรุงโรงเรียนและภูมิทัศน์โดยรอบ งานของพวกเราคือการปลูกดอกทิวลิปตามถนนในเมืองและเมืองข้าง ๆ ค่ะ

ทำงานวันละประมาณ 6 ชม ค่ะ ถ้าวันไหนฝนตกก็อยู๋ในบ้านค่ะ ซึ่งสนุกมากและไม่เหนื่อยเลย เพราะทุกคนต่างช่วยเหลือกัน ส่วนเรื่องอาหาร Camp leader จะมีตารางเวรให้ว่า อาหารกลางวันใครทำ ใครจะเป็นคนล้างจาน ซึ่งจะสลับกันไปค่ะ พอถึงมื้อเย็นพวกเราก็จะมีปาร์ตี้กัน ซึ่งจะเป็นปาร์ตี้แต่ละประเทศ เช่นวันแรกจะเป็น สโลวาเกียไนท์ วันที่สองบราซิลไนท์ ส่วนไทยไนท์อยู่คืนสุดท้ายก่อนจบค่าย ซึ่งอาสาสมัครแต่ละคนจะต้องทำอาหารและขนมหวานของประเทศตัวเองให้เพื่อน ๆ ได้ชิม

ส่วนคืนไทยไนท์เราทำผัดกระเพราแกะ ผัดผักรวม ซึ่งทุก ๆ คนชอบมาก ประทับใจที่สุดเพราะอาหารหมดเกลี้ยงเลย พอทานอาหารกันเสร็จก็จะนำเสนอประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภาษา สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศนั้น ๆ ประมาณ 30 - 50 นาที ทุกคนให้ความสนใจกันมากและพร้อมที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ และหลังจากนั้นสิ่งที่พวกเรารอคอยกันทุก ๆ คืน นั่นก็คือแสงเหนือ พวกเราใช้เวลาประมาณ 2-4 ชม. ในการล่าแสงเหนือท่ามกลางอุณหภูมิ 2 องศา พอถึงวันหยุดพวกเราก็ได้ไปปีนเขา เดินเล่นในเมือง ว่ายน้ำ นี่คือกิจวัตรประจำวันที่พวกเราต้องทำกันทุก ๆ วัน

ถ้าพูดถึงเรื่องมิตรภาพ คือยังไงก็ได้แบบ 100% และประสบการณ์อีกมากมายที่พูดออกมาไม่ได้ เพราะต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง สุดท้ายนี้ แต่ไม่ท้ายสุด ต้องขอบคุณตัวเองที่กล้าที่จะออกไปเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ขอบคุณ VSA Thailand และลืมไม่ได้เลยที่จะพูดขอบคุณ ขอบคุณพี่แพรค่ะที่ช่วยเหลือตลอด ตั้งแต่การสมัคร การเตรียมเอกสารทำวีซ่า การเตรียมความพร้อมก่อนไปค่ายและข้อมูลอื่นอีกมากมาย และเจอกันใหม่ในค่ายต่อ ๆ ไปค่ะ

เฟิร์น